เกมและกีฬา

ฟุตบอลชายหาด เป็นอีกหนึ่งรูปแบบเกมการแข่งขันกีฬาที่จะใช้ลูกบอลเป็นอุปกรณ์ ซึ่งจะมีลักษณะของการเข้าทำประตู หรือการวัดผลแพ้ชนะด้วยการที่นักกีฬาต้องสามารถนำลูกบอล ผ่านเข้าพ้นเขตแดนประตูของคู่ต่อสู้เข้าไปได้ โดยเราจะพบได้ถึงเสน่ห์ของการแข่งขันกีฬาฟุตบอลชายหาด ซึ่งจะมีความแตกต่างกันในเรื่องของพื้นผิวสนามเป็นหลัก จากพื้นที่สนามที่เป็นพื้นทรายจะทำให้ลูกบอลไม่สามารถเคลื่อนที่หรือกลิ้งไปได้โดยง่าย จึงทำให้นักกีฬาฟุตบอลแต่ละคนต้องมีทักษะ มีความสามารถในการควบคุมลูกบอล ให้เคลื่อนที่ไปข้างหน้า หรือส่งต่อให้เพื่อนในการเข้าทำประตู

สำหรับกฎกติกาเบื้องต้น ในการแข่งขันกีฬาฟุตบอลชายหาดนั้น จะมีการกำหนดให้พื้นที่ของสนามเป็นสี่เหลี่ยมผืนผ้า ให้มีขนาดความยาวระหว่าง 35-37 เมตร และให้มีความกว้างระหว่าง 26-28 เมตร บริเวณสุดเขตสนามทั้ง 2 ฝั่งในแนวยาว จะมีการตั้งเสาประตู ซึ่งจะมีความสูง 2.2 เมตร และมีความกว้าง 5.5 เมตร

ในระหว่างเกมการแข่งขันจะมีการกำหนดให้แต่ละทีม มีนักกีฬาในจำนวนทั้งหมด 5 คน ซึ่งจะเป็นผู้รักษาประตู 1 คน ในช่วงเวลาการแข่งขัน จะถูกแบ่งออกเป็น 3 ช่วง / ช่วงเวลาละ 12 นาที ในระหว่างการแข่งขัน จะมีการหยุดเวลาเกมการแข่งขันโดยทันทีก็ต่อเมื่อ มีการหยุดเล่นหรือลูกตาย ซึ่งจะไม่มีการทดเวลาบาดเจ็บ เหมือนการแข่งขันฟุตบอลในประเภทอื่น ทั้งนี้ในกรณีที่แข่งขันกันจนครบ 3 ช่วง ยังมีผลการแข่งขันที่เสมอกัน จะมีการต่อเวลาพิเศษอีก 3 นาที หากยังไม่มีผลการแข่งขันเปลี่ยนแปลง จะมีการแข่งขันหาผู้ชนะด้วยการดวลลูกจุดโทษ ซึ่งก็จะเป็นลักษณะของการเล่นแบบ sudden death นั่นก็คือหากมีฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งสามารถยิงประตูได้ และอีกฝ่ายหนึ่งไม่สามารถทำประตูตีเสมอ จะถือว่าแพ้เกมการแข่งขันครั้งนั้นไปโดยทันที

วอลเลย์บอลชายหาด ประเภทกีฬาที่ได้มีการดัดแปลงพัฒนามาจากการแข่งขันกีฬาวอลเลย์บอลในรูปแบบปกติ ซึ่งจะมีความแตกต่างกันในเรื่องของจำนวนนักกีฬา ทั้งยังจะมีกฎกติกาที่มีความแตกต่างกันจากการแข่งขันกีฬาวอลเลย์บอลโดยทั่วไป ในการแข่งขันกีฬาวอลเลย์บอลชายหาด จะมีข้อกำหนดในเรื่องของพื้นที่สนาม ซึ่งจะเป็นสนามรูปสี่เหลี่ยมผืนผ้ามีความยาว 18 เมตร และมีความกว้าง 8 เมตร พื้นที่บริเวณรอบนอกขอบสนามต้องมีระยะห่างอยู่ที่ 5 เมตรในทุกด้าน พื้นที่ด้านบนจะต้องมีความโล่งที่สามารถเล่นลูกได้ด้วยความสูงในระยะ 12.50 เมตร และในสนามการแข่งขันที่เป็นทรายจะต้องมีความหนาของพื้นผิวทรายอย่างน้อย 40 cm วัสดุที่เป็นเม็ดทราย ต้องมีลักษณะกลม ไม่มีการอัดแน่น หรือมีสิ่งแปลกปลอมที่อาจจะก่อให้เกิดอันตรายได้โดยง่ายเช่น เปลือกหอย หรือก้อนหิน เนื้อของทรายต้องมีความพอดี ซึ่งจะต้องไม่หยาบหรือละเอียดจนเกินไป

ในส่วนของความสูงของตาข่ายในประเภทชาย จะกำหนดความสูงอยู่ที่ 2.43 เมตร ในประเภทหญิงจะกำหนดความสูงอยู่ที่ 2.24 เมตร ในการแข่งขันจะมีผู้เล่นที่ทำการแข่งขันเพียงแค่ 2 คน และจะไม่มีผู้เล่นในตำแหน่งตัวสำรอง เกณฑ์การนับคะแนนจะสามารถแบ่งแยกได้เป็น 2 รูปแบบ

ในแบบที่ 1 การแข่งขันแบบเซตเดียว จบจะหาผู้ชนะที่สามารถทำแต้มได้สูงสุดที่ 15 แต้ม ในระหว่างการแข่งขันหาทั้งสองทีมทำแต้มรวมได้อยู่ระหว่าง 5, 10 และ 15 จะมีการเปลี่ยนแดน และให้มีการหยุดพักในระยะเวลา 30 วินาที

ในแบบที่ 2 จากการแข่งขันในจำนวน 3 เซต จะเป็นการพิจารณาแต้มเกมการแข่งขันที่ 12 แต้ม จะเป็นฝ่ายชนะเกมแต่จะต้องมีผลต่างของคะแนนอย่างน้อย 2 คะแนน ขึ้นไปในระหว่างการแข่งขันหากทั้งสองทีม ทำแต้มรวมได้ที่ 4, 8, 12 และ 16 มีการเปลี่ยนแดน และให้มีการหยุดพักในระยะเวลา 30 วินาที

การแข่งขันพายเรือแคนู ประเภทเกมการแข่งขันที่มีความน่าสนใจ จากเกมการแข่งขันที่จะใช้เรือแคนูเป็นอุปกรณ์หลัก พร้อมด้วยการแข่งขันในสนามซึ่งโดยส่วนใหญ่แล้ว จะจัดให้มีการแข่งขันจากพื้นที่ธรรมชาติจริง ๆ จึงทำให้กีฬาในลักษณะนี้เป็นประเภทกีฬาที่ผู้เข้าแข่งขัน ไม่สามารถคาดเดาสถานการณ์ภายในสนามที่เกิดขึ้นได้โดยง่าย ซึ่งจะต้องอาศัยทักษะในเรื่องของการพายเรือ การวางแผน การตัดสินใจที่เด็ดขาด จึงจะเป็นส่วนสำคัญให้นักกีฬาที่ทำการแข่งขัน สามารถได้รับชัยชนะในครั้งนั้น

ในการแข่งขันพายเรือแคนู ในปัจจุบันจะถูกแบ่งแยกออกมาได้เป็น 5 ประเภท

• Flat – water Racing Canoe / Kayak ประเภทการแข่งขันพายเรือที่จะใช้ความเร็ว ซึ่งจะมีการแบ่งกลุ่มร่วมการแข่งขันในประเภทเดี่ยว ในประเภทคู่ หรือในประเภททีม
• Canoe / Kayak Slalom ประเภทการแข่งขันพายเรือ ที่จะมีการจัดแข่งขันในสนามที่เป็นพื้นที่ธรรมชาติ ในการพายเรือให้เคลื่อนที่ไปตามจุดที่กำหนด
• Kayak Marathon ประเภทการแข่งขันพายเรือในระยะไกล
• Canoe Polo ประเภทการแข่งขันพายเรือ ที่จะมีลักษณะเกมการแข่งขันคล้ายกันกับกีฬาโปโล
• Canoe Rowing ประเภทการแข่งขันพายเรือในท่ากรรเชียง

จากการแข่งขันพายเรือแคนู ในประเภทต่าง ๆ นักกีฬาในประเภทนี้จำเป็นอย่างยิ่ง ที่จะต้องมีทักษะความสามารถในการพายเรือในเรื่องของการควบคุมบังคับเรือ ทั้งยังจะต้องมีพละกำลังมีความแข็ง แรงและในบางประเภทกีฬา ยังจะต้องมีความพร้อมเพียงกันในระหว่างเกมการแข่งขัน จึงจะทำให้นักกีฬาในประเภทนี้ สามารถสร้างชัยชนะจากการแข่งขันกีฬาพายเรือแคนู ไปได้โดยง่าย

ยิงธนู จะถือได้ว่าเป็นประเภทกีฬาที่มีความเก่าแก่ มีประวัติศาสตร์มาอย่างยาวนาน จากจุดเริ่มต้นของอาวุธในยุคแรก ๆ และถือเป็นอุปกรณ์สำคัญ ที่จะมีประโยชน์ใช้ในการต่อสู้ โดยใช้ในการล่าสัตว์ ซึ่งในยุคปัจจุบันนี้ กีฬายิงธนู จะถูกบรรจุเอาไว้ในรายการเกมการแข่งขันจากในหลาย ๆ ระดับ ซึ่งท่านจะพบเห็นอยู่โดยทั่วไปจากเกมการแข่งขันกีฬาในระดับนานาชาติ

สำหรับกติกาการแข่งขันในเบื้องต้นในกีฬายิงธนูจะถูกกำหนดให้มีระยะในการแข่งขันที่ถูกแบ่งเป็น 2 รุ่นนั่นก็คือรุ่นเล็กในระยะ 30 และ 50 เมตรและรุ่นใหญ่ในระยะ 60 70 และ 90 เมตรบริเวณเป้าที่ใช้ในการยิงจะมีการซ้อนวงกลมเรื่องการ 5 สีเป็นลำดับได้แก่สีขาว สีดำ สีฟ้า สีแดง และสีเหลือง ในแต่ละวงของ 4 จะมีการกำหนดค่าคะแนนที่แตกต่างกันไปดังนี้

• สีขาว ซ้อนกัน วงในมีค่า 2 คะแนน วงนอกมีค่า 1 คะแนน
• สีดำ ซ้อนกัน วงในมีค่า 4 คะแนน วงนอกมีค่า 3 คะแนน
• สีฟ้า ซ้อนกัน วงในมีค่า 6 คะแนน วงนอกมีค่า 5 คะแนน
• สีแดง ซ้อนกัน วงในมีค่า 8 คะแนน วงนอกมีค่า 7 คะแนน
• สีเหลือง 3 ซ้อนกัน วงในสุดมีค่า 10 คะแนน วงกลางมีค่า 10 คะแนน และ วงนอกสุดมีค่า 9 คะแนน

การแข่งขันกีฬายิงธนู จะไม่มีกฎกติกาอะไรเพิ่มเติมในระหว่างการแข่งขัน แต่จะมีข้อกำหนดในเรื่องของอุปกรณ์การใช้งานต่าง ๆ ซึ่งจะต้องไม่มีลักษณะของการช่วยอำนวยความสะดวก ไม่ว่าจะเป็นการใช้ศูนย์เล็ง หรือตัวช่วยต่าง ๆ ในการเล็งเป้า

โปโลน้ำ ถือได้ว่าเป็นประเภทกีฬาในชนิดเดียว ที่จะมีการใช้ลูกบอลเป็นอุปกรณ์ในการเล่นในน้ำ โดยเราจะพบได้ถึงกฎกติกาพื้นฐานในการเล่นที่คล้ายกันกับเกมการแข่งขันที่มีลูกบอลโดยทั่วไป ในการเข้าทำคะแนน ซึ่งเราจะพบได้ถึงความแตกต่างกันแต่เพียงแค่ สนามที่ใช้ในการเล่นนั่นก็คือการเล่นภายในสระน้ำ จากต้นกำเนิดของกีฬาในประเภทนี้ซึ่งจะถือกำเนิดที่ประเทศอังกฤษ จึงทำให้กีฬาโปโลน้ำ จะได้รับความนิยมกันเป็นอย่างมากสำหรับกลุ่มแฟนกีฬาที่อยู่ในภูมิภาคยุโรป

สำหรับกฎกติกาการแข่งขันในเบื้องต้น จะมีการกำหนดให้พื้นที่สนามของโปโลจะมีระยะอยู่ที่ 25 x 20 หลา และให้มีความลึกที่ 7 ฟุต ในการแข่งขันในสนามจะกำหนดให้มีผู้เล่นทั้งหมด 7 คน ซึ่งจะเป็นผู้เล่นในตำแหน่งปกติ 6 คน และผู้รักษาประตู 1 คน ในการรับลูกผู้เล่นโดยทั่วไป จะสามารถรับลูกได้เพียงแค่มือเดียว ในกรณีของผู้รักษาประตูจะสามารถรับลูกบอล 2 มือได้ สำหรับช่วงเวลาเกมการแข่งขัน จะมีการกำหนดเวลาออกเป็น 4 ควอเตอร์ โดยทั่วไปแล้วจะใช้ระยะเวลาอยู่ระหว่าง 45 – 60 นาที ในการครองบอลในแต่ละครั้งข องนักกีฬาจะสามารถถือครองได้อยู่ที่ 30 วินาที และเรายังพบได้ถึงกรณีที่มีการฟลาวล์ หากมีการฟาวล์ของนักกีฬาในจำนวน 3 ครั้ง นักกีฬานั้นจะไม่สามารถเข้ามาสู่ภายในเกมได้อีกต่อไป

ในการให้คะแนนจากการแข่งขัน ก็จะเหมือนลักษณะของเกมการแข่งขันที่มีลูกบอลโดยทั่วไป จากการแข่งขันที่จะต้องโยนลูกบอลเข้าไปในฝั่งประตูของคู่ต่อสู้ฝั่งตรงข้าม ให้ได้ค่าคะแนนมากที่สุด จึงจะเป็นฝ่ายชนะเกมการแข่งขันในครั้งนั้น

ระบำใต้น้ำ ประเภทกีฬาที่จะมีการให้คะแนนจากความสวยงามของท่วงท่า และความพร้อมเพรียงของกลุ่มนักกีฬา โดยพื้นฐานการแสดงท่าทาง แล้วจะมีลักษณะคล้ายกันกับท่วงท่าของการเต้นบัลเล่ต์ แต่จะมีความแตกต่างเพียงแต่แค่ต้องใช้ความสามารถในการเต้นระบำภายใต้พื้นผิวน้ำ ซึ่งจะต้องอาศัยความทักษะสามารถในการว่ายน้ำ และความอดทนที่จะต้องกลั้นหายใจในบางท่า ที่จะต้องมีการดำอยู่ในน้ำเป็นเวลานาน ๆ

สำหรับกติกาเบื้องต้นในการแข่งขันกีฬาระบำใต้น้ำ จะมีการจัดให้แข่งขันอยู่ภายในสระน้ำซึ่งมีขนาด 20 x 12 เมตร ให้มีความลึกประมาณ 3 เมตร และจะต้องมีการควบคุมอุณหภูมิของน้ำควรจะอยู่ที่ 26 องศา สภาพของน้ำจะต้องมีความใส มีความสะอาดสามารถมองเห็นลงไปในเบื้องล่างได้อย่างชัดเจน เกณฑ์การให้คะแนนจะเป็นการพิจารณาจากทางคณะกรรมการในจำนวน 5 คนซึ่งจะมีเกณฑ์คะแนนสูงสุด 10 คะแนน เมื่อนักกีฬาทำการแข่งขันเสร็จสิ้น จะทำการตัดค่าคะแนนสูงสุดและต่ำสุดออก และจะนำค่าคะแนนที่เหลือจากทางคณะกรรมการทั้งสามคน นำมาพิจารณาเพิ่มเติมกับท่าทาง เทคนิค และความสวยงาม จึงจะเป็นค่าคะแนนโดยเฉลี่ย ของทีมนักกีฬาระบำใต้น้ำที่ได้ทำการแข่งขันในขณะนั้น

สำหรับควรระวังในการรับชมกีฬาใต้น้ำ ในส่วนของแฟนกีฬาควรจะมีความสุภาพในการรับชมเกมการแข่งขัน ที่จะต้องแสดงออกถึงความพึงพอใจด้วยการใช้ท่าทางภาษากาย จะไม่มีการออกเสียง หรือไม่ควรที่จะมีการปรบมือ เพราะอาจจะเป็นการรบกวนนักกีฬาขณะที่กำลังฟังเสียงดนตรีในระหว่างการแข่งขัน ซึ่งผู้รับชมจะสามารถแสดงออกถึงความพึงพอใจ ด้วยการส่งเสียง หรือการปรบมืออย่างเต็มที่ หลังจากที่นักกีฬาได้ทำการแสดงสิ้นสุดลงแล้วเท่านั้น